พันธ์ยศเฮลธ์แพลนเนท ขอขึ้นทะเบียนวัคซีนรุ่นใหม่ จากประเทศรัสเซีย ชื่อ “สปุตนิกไลท์” (Sputnik Light) และ วัคซีน “Novavac” จากสหรัฐอเมริกา ล่าสุดยื่นเอกสารชุดแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไปแล้ว
นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานสถาบันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยจีนและประธานกรรมการบริหารบริษัท พันธ์ยศเฮลธ์แพลนเนท จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท ตัดสินใจดำเนินการในการขอขึ้นทะเบียนวัคซีนรุ่นใหม่ จากประเทศรัสเซีย ชื่อ “สปุตนิกไลท์” (Sputnik Light) และ วัคซีน “Novavac” จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีผลการวิจัยและทดลองว่าสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสที่มีการกลายพันธุ์ได้ และคาดว่าวัคซีนทั้ง 2 ชนิดนี้ เป็นที่ต้องการของหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงรัฐบาลไทยอีกด้วย

นายพันธ์ยศ กล่าวว่า มีข่าวสารจากหลายประเทศแจ้งว่า การอนุมัติการใช้วัคซีน “สปุตนิก ไลท์” ระบุ ถึงผลวิจัยด้านประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ในการฉีดเพียงเข็มเดียว มากกว่า 90% และ มีความแตกต่างจาก “สปุตนิก-วี” (Sputnik-V) ซึ่งต้องฉีด 2 เข็ม ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัด สะดวกมากกว่าเดิม เพราะในระยะเวลาที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกถึงเข็มที่ 2 ยังคงเป็นระยะทีมีความไม่แน่นอน และยังมีโอกาสเสี่ยง ในการได้รับเชื้ออยู่ ดังนั้นตนเชื่อว่าวัคซีนชนิดฉีด เพียงครั้งเดียวคือ Sputnik Light และ วัคซีน Novavac นั้นประสิทธิภาพและระยะเวลาการ สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ที่รวดเร็วยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน เป็นอีกหนึ่งวัคซีนทางเลือกที่สามารถลดความสูญเสีย ในการติดเชื้อ โควิด- 19 หรือเสียชีวิต จากความรุนแรงของโรคอย่างเฉียบพลัน
“ปัจจุบัน วัคซีนนี้ ยังไม่ มีใครขึ้นทะเบียนและ นำเข้าไทยได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นวัคซีนที่มีความน่าสนใจทั้งเรื่องของ งาน วิจัย และผลการทดลอง ที่มีประสิทธิภาพ รวมถึง ได้ถูกใช้ไปมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก เรื่องนี้ได้ศึกษาจากผลวิจัยรวมถึงผลการทดลอง ในการใช้งานของประเทศต่าง ๆ จึงได้ตกลง เลือกวัคซีนดังกล่าวที่จะขอขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ด้วยตัวเอง โดยได้ยื่นเอกสารชุดแรกไปแล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้ ซึ่งทั้งหมดกำลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นนโยบายที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการสนับสนุนเอกชนเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนภายในประเทศ เป็นความหวังที่จะช่วยยับยั้งการติดเชื้อโควิค -19 คือ Sputnik Light และNovavac ที่สามารถป้องกันและยับยั้งการติดเชื้อได้อย่างรวดเร็วกว่าวัคซีน ชนิดเดิม ได้มากกว่าเท่าตัว” นายพันธ์ยศกล่าว